มุมแนะนำ

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

Cell

         คือ หน่วยพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิด (เพราะยกเว้นไวรัส) ที่สามารถแสดงสมบัติของสิ่งมีชีวิตได้
เซลล์แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
1) เซลล์โปรคาริโอต (Prokaryotic cell) เป็นเซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียสเนื่องจากไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
2) เซลล์ยูคาริโอต (Eukaryotic cell) เป็นเซลล์ที่มีนิวเคลียสเนื่องจากมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
หมายเหตุ : ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ไม่จัดว่าเป็นเซลล์ พบว่าโครงสร้างของไวรัสจะมีโครงสร้างหลักๆ คือสารพันธุกรรม
(DNA หรือ RNA) และมีโปรตีน (protein coat) หุ้มสารพันธุกรรมไว้เท่านั้น
คุณสมบัติของการเป็นเซลล์ที่ต้องพบในเซลล์ทุกชนิด ได้แก่
1) สารพันธุกรรม (DNA และ RNA)
2) เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane)
3) สารเคลือบเซลล์ (cell coat)
4) ไซโทพลาสซึม หรือโปรโทพลาสซึม
ภายในเซลล์โดยเฉพาะเซลล์ยูคาริโอต จะพบออร์แกเนลล์ (organelle) หลายชนิดซึ่งมีดังนี้
·         ไรโบโซม (ribosome) ทำหน้าที่ ในการสร้างหรือสังเคราะห์โปรตีนให้แก่เซลล์
·         ไมโทคอนเดรีย (mitochondria) เป็นแหล่งสร้างพลังงาน (ATP) ที่สำคัญของเซลล์
·         ร่างแหเอนโดพลาสซึม (endoplasmic reticulum: ER) ทำหน้าที่ เป็นทางผ่านของการลำเลียงสาร เข้า – ออกจากเซลล์แบ่งออกได้เป็น  2 แบบ
1) Rough ER (RER) มีหน้าที่สร้างโปรตีนแล้วส่งออกนอกเซลล์ จะพบมากในเซลล์ที่มีการสร้างน้ำย่อย เช่น
เซลล์ตับอ่อน, เซลล์ที่ต่อมน้ำลาย, เซลล์ที่ต่อมสร้างพิษงู เป็นต้น
2) Smooth ER (SER) มีหน้าที่สร้างสารสเตอรอยด์ และไขมันส่งออกนอกเซลล์เช่นท่ำพบในเซลล์รังไข่, อัณฑะ
และนอกจากนี้ยังพบมากในเซลล์ตับ เนื่องจากมีกระบวนการกำจัดสารพิษ (detoxication)
·         กอลจิ บอดี (golgi body, golgi complex) ทำหน้าที่รับสารจาก ER แล้วส่งออก (exocytosis) นอกเซลล์
·         ไลโซโซม (lysosome) ทำหน้าที่ย่อยสารต่างๆ เนื่องจากทมีน้ำย่อยอยู่ภายใน
·         เซนตริโอล (centriole) ควบคุมการเคลื่อนที่ของเซลล์ และยังเกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์ โครงสร้างประกอบ
ขึ้นจากหลอดไมโครทิวบูลที่จัดเรียงตัวรวมกันแบบ 9+0
·         คลอโรพลาสต์ (chloroplast) ทำหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)
·         แวคิวโอล (vacuole) เป็นแหล่งเก็บน้ำเก็บสารต่างๆ
·         ไซโทสเกเลตัล (cytoskeleton) ได้แก่ ไมโครทิวบูล (microtubule), ไมโครฟิลาเมนต์ (microfilament)
และอินเตอร์มีเดียตฟิลาเมนต์ (intermediate filament) ทั้ง 3 จะทำหน้าที่เป็นโครงร่างของเซลล์ ทำให้
เซลล์มีรูปทรง

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

เพิ่มความเร็วแรม



วิธีง่าย ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของแรม


สำหรับวิธีนี้ จะเป็นการแก้ไขค่าในรีจิสตรีอีกตัวหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้ระบบโหลดเคอร์เนลใน Windows XP เอาไปเก็บไว้ในแรมเลย และวิธีการนี้จะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพของแรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่! มีข้อจำกัดอยู่อย่างหนึ่ง คือ เครื่องที่สามารถใช้งานได้จะต้องมีแรมไม่ต่ำกว่า 256 เมกะไบต์ขึ้นไปครับ จึงจะเห็นผล

ขั้นตอนการปรับแต่ง
1. เปิดโปรแกรม Registry Editor ขึ้นมา โดยคลิกที่ Start > Run > พิมพ์ Regedit กด OK
2. เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Control > SessionManager > Memory Management
3. ให้หาคีย์ดังต่อไปนี้ ที่หน้าต่างทางขวงมือ

“DisablePagingExecutive”=dword:00000000
“LargeSystemCache”=dword:00000000

4. เมื่อพบแล้วให้แก้ไขค่าตัวเลย โดยเปลี่ยนเลข 0 ตัวสุดท้ายให้เป็นเลข 1 หรือหากไม่มี ให้สร้างคีย์ใหม่ โดยตั้งค่าดังนี้

“DisablePagingExecutive”=dword:00000001
“LargeSystemCache”=dword:00000001

Credit : ComputerFC.com



การใช้ ink tank

วิธีการใช้ ink tank 
วิธีการใช้งาน ink tank

วิธีใช้งานปกติ
       -  ปิดจุกยางด้านเติมหมึก(1)
       -  ใส่ตัวกรองอากาศด้านอากาศเข้า(2)
วิธีเติมหมึก
       -  ปิดจุกยางด้านอากาศเข้า(2)
       -  เปิดจุกยางด้านเติมหมึก ฉีดหมึกลงไปในช่องเติมหมึก(1)
วิธีปรับแรงดันหมึก
       -  เปิดจุกยางทั้ง 2 ด้าน
       -  ใช้ไซริ้งค์เป่าอากาศลงไปในช่องอากาศเข้า(2) จนระดับหมึกลดลงต่ำสุด ปล่อยไซริ้งค์ไว้อย่า

เพิ่งดึงไซริ้งค์ออก
       -  ปิดจุกยางด้านเติมหมึก(1)
       -  เอาสลิงค์ออกแล้วใส่ตัวกรองอากาศด้านอากาศเข้า(1) ใช้งานตามปกติ
ข้อควรระวัง
       -  ตัวแท็งค์ควรยกสูงจากพื้นประมาณ 2 cm (เฉพาะรุ่นที่มีช่องปรับแรงดันเหมือนในรูป)
       -  ระวังถ้าหากมีหมึกเยิ้มที่หัวพิมพ์ควรปรับแรงดันหมึก ถ้ายังไม่หายให้ลดระดับแท็งค์ลงมาอีก 0.5 cm 

และทำความสะอาดหมึกออกให้หมดจากหัวพิมพ์ ซึ่งอาจจะทำให้หัวพิมพ์ช็อตได้
       -  ถ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ ควรปิดจุกยางทั้ง 2 ด้าน
       -  กรณีที่มีอากาศอยู่ในสายท่อยางของแท็งค์ ทำให้งานพิมพ์ออกมาไม่ดีให้ถอดสายยางออกจากตลับ

หมึกของสีนั้นๆ 
 แล้วใช้ไซริ้งค์อัดอากาศเข้าไปในช่องอากาศเข้า(2) ทีละน้อยเพื่อไล่อากาศออกมาจะสังเกตเห็นว่าน้ำหมึก
จะไหลจน
เต็มสายยาง แล้วจึงเสียบสายยางเข้าไปในตลับหมึกเหมือนเดิม
       -  หมั่นตรวจเช็ค สายท่อยางระวังอย่าให้ติดขัดเวลาหัวพิมพ์วิ่งไปมา
       -  ระวังอย่าให้หมึกหมดแท็งค์ ควรเติมหมึกเมื่อระดับหมึกเหลือประมาณ 20%


มุมแนะนำ