ภาคเหนือ
|
|||
ชื่อเขื่อน
|
ประเภทเขื่อน
|
กั้นแม่น้ำ
|
สถานที่ตั้ง
|
1.เขื่อนภูมิพล
|
กักเก็บน้ำ
|
ปิง
|
อ.สามเงา
จ.ตาก
|
2.เขื่อนสิริกิติ์
|
กักเก็บน้ำ
|
น่าน
|
อ.ท่าปลา
จ.อุตรดิตถ์
|
3.เขื่อนกิ่วลม
|
กักเก็บน้ำ
|
วัง
|
อ.ลำปาง
|
ภาคใต้
|
|||
1.เขื่อนบางลาง
|
กักเก็บน้ำ
|
ปัตตานี
|
บ้านบางลาง
ต.เขื่อนบางลาง
อ.บันนังสตา
จ.ยะลา
|
2.เขื่อนบ้านคระ
|
ทดน้ำ
|
ปัตตานี
|
จ.ปัตตานี
|
3.เขื่อนรัชประภา
|
กักเก็บน้ำ
|
คลองแสง
|
บ้านเชี่ยวหลาน
ต.เขาพัง
อ.บ้านตาขุน
จ.สุราษฎร์ธนี
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
|||
1.เขื่อนอุบลรัตน์
|
กักเก็บน้ำ
|
น้ำพอง
|
ต.โคกปีป
อ.น้ำพอง
จ.ขอนแก่น
|
2.เขื่อนสิรินธร
|
กักเก็บน้ำ
|
ลำโดมน้อย
|
อ.พิบูลสงคราม
จ.อุบลราชธานี
|
3.เขื่อนจุฬาภรณ์
|
กักเก็บน้ำ
|
น้ำพรม
|
อ.คลองสาน
จ.ชัยภูมิ
|
4.เขื่อนลำตะคอง
|
กักเก็บน้ำ
|
ลำคะคอง
|
อ.สีคิ้ว
จ.นครราชสีมา
|
5.เขื่อนน้ำพุง
|
กักเก็บน้ำ
|
น้ำพุง
|
อ.โคกกู
อ.กุดบาด จ.สกลนคร
|
6.เขื่อนน้ำอูน
|
กักเก็บน้ำ
|
น้ำอูน
|
จ.สกลนคร
|
7.เขื่อนลำปาว
|
กักเก็บน้ำ
|
ลำปาว
|
อ.เมือง
จ.กาฬสินธุ์
|
8.เขื่อนลำพระเพลง
|
กักเก็บน้ำ
|
ลำพระเพลิง
|
อ.ปักธงชัย
จ.นครราชสีมา
|
9.เขื่อนห้วยหลวง
|
ทดน้ำ
|
ห้วยหลวง
|
จ.อุดรธานี
|
10.เขื่อนพิมาย
|
ทดน้ำ
|
แม่น้ำมูล
|
อ.พิมาย
จ.นครราชสีมา
|
11.เขื่อนคนชุม
|
ทดน้ำ
|
ลำตะคอง
|
จ.นครราชสีมา
|
12.เขื่อนบ้านจ่อหอ
|
ทดน้ำ
|
ลำตะคอง
|
จ.นครราชสีมา
|
ภาคกลาง
|
|||
1.เขื่อนเจ้าพระยา
|
ทดน้ำ
|
เจ้าพระยา
|
จ.ชัยนาท
|
2.เขื่อนศรีนครินทร์ (เขื่อนเจ้าเณร)
|
กักเก็บน้ำ
|
แม่กลอง
|
บ้านเจ้าเณร
ต.ท่ากระดาน
อ.ศรีสวัสด์
จ.กาญจนบุรี
|
3.เขื่อนเพรช
|
กักเก็บน้ำ
|
เพชร
|
ต.ท่าคอย
อ.ท่ายาง
จ.เพชรบุรี
|
4.เขื่อนแก่งกระจาน
|
กักเก็บน้ำ
|
เพรช
|
อ.ท่ายาง
จ.เพชรบุรี
|
5.เขื่อนพระรามหก
|
ทดน้ำ
|
ป่าสัก
|
จ.พระนครศรีอยุธยา
|
6.เขื่อนวชิราลงกรณ์
|
ทดน้ำ
|
แม่กลอง
|
ต.ม่วงชุม
อ.ท่าม่วง
จ.กาญจนบุรี
|
7.เขื่อนนายก
|
ทดน้ำ
|
นครนายก
|
จ.นครนายก
|
8.เขื่อนปราณบุรี
|
กักเก็บน้ำ
|
ปราณ
|
จ.ประจวบคีรีขันธ์
|
9.เขื่อนยางชุม
|
กักเก็บน้ำ
|
ลุ่มน้ำปราณบุรี
|
จ.ประจวบคีรีขันธ์
|
10.เขื่อนลำพระยาธาร
|
กักเก็บน้ำ
|
ลำพระยาธาร
|
จ.ปราจีนบุรี
|
11.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
|
กักเก็บน้ำ
|
แม่น้ำป่าสัก
|
จ.ลพบุรี
และ จ.สระบุรี
|
12.เขื่อนขุนด่านปราการชล
|
กักเก็บน้ำ
|
แม่น้ำนครนายก
|
จ.นครนายก
|
เนื้อหา การเรียน การสอน ฟรีๆมากมาย เพื่อคนที่เรียนหนังสือ อ่านฟรี เนื้อหา วิชาเคมี วิชาสังคม วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาชีววิทยา และ หนังสือ ให้ อ่านฟรี
มุมแนะนำ
วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555
เขื่อนในประเทศไทย
พันธะโคเวเลนต์
พันธะโคเวเลนต์
1).ธาตุคู่พันธะ: เกิดจาการเข้าทำพันธะของธาตุอโลหะและ ธาตุอโลหะ (อโลหะ+อโลหะ)
2).สารประกอบที่ได้: เรียกว่าสารประกอบโคเวเลนต์
3).การใช้งานอิเล็กตรอน: เกิดอะตอมของธาตุอโลหะพยายามจะทำให้ตัวเองมีอิเล็กตรอนครบแปด
จึงไปขอใช้อิเล็กตรอนกับธาตุโลหะอะตอมอื่น(อาจเป็นธาตุเดียวกันหรือต่างกันก็ได้)โดยการที่จะไปขอใช้นั้นต้องนำอิเล็กตรอนไปแลกด้วย
จึงเกิดอิเล็กตรอนจำนวนหนึ่งที่มีการใช้งานร่วมกันของอะตอมอโลหะทั้งสองอะตอม
เรียกว่า พันธะโคเวเลนต์
4).สูตรสารประกอบ: ธาตุคู่พันธะหนึ่งๆสามารถเกิดพันธะได้หลายแบบ(พันธะเดี่ยว,พันธะคู่,พันธะสาม)ดังนั้น
สารประกอบโคเวเลนต์จึงไม่มีสูตรสารประกอบที่แน่นอน
5).ค่าΔEN: ต่างกันน้อย
จนถึงไม่แตกต่างเลย(เกิดกับพันธะโคเวเลนต์ที่ธาตุเดียวกันทำพันธะกัน)
6).ความแข็งแรงของพันธะ: พันธะโคเวเลนนต์มีความแข็งแรงน้อยกว่าพันธะโลหะแลพันธะไอออนิก
เพราะไม่ได้เกิดจากไอออนบวกและลบดึงดูดกันอย่างชัดเจน
แต่เกิดจากนิวเคลียสของธาตุคู่รวมพันธะดึงดูดกัน
7).ลักษณะของสารประกอบ: สารประกอบโคเวเลนต์มีได้ทั้ง3สถานะที่
RTP(Room Temperature and Pressure)ไม่นำไฟฟ้าทั้งในสภาพของแข็งและของเหลว
จุดเดือดจุดหลอมเหลวต่ำ เนื่องจากการเปลี่ยนสถานะป็นการทำลายแรงระหว่างโมเลกุล
ไม่ได้ทำลายพันธะโคเวเลนต์
Cell
คือ
หน่วยพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิด (เพราะยกเว้นไวรัส)
ที่สามารถแสดงสมบัติของสิ่งมีชีวิตได้
เซลล์แบ่งออกได้เป็น 2
ประเภท
1) เซลล์โปรคาริโอต (Prokaryotic
cell) เป็นเซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียสเนื่องจากไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
2) เซลล์ยูคาริโอต (Eukaryotic
cell) เป็นเซลล์ที่มีนิวเคลียสเนื่องจากมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
หมายเหตุ : ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิต
แต่ไม่จัดว่าเป็นเซลล์ พบว่าโครงสร้างของไวรัสจะมีโครงสร้างหลักๆ คือสารพันธุกรรม
(DNA หรือ RNA) และมีโปรตีน
(protein coat) หุ้มสารพันธุกรรมไว้เท่านั้น
คุณสมบัติของการเป็นเซลล์ที่ต้องพบในเซลล์ทุกชนิด
ได้แก่
1) สารพันธุกรรม (DNA และ
RNA)
2) เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane)
3) สารเคลือบเซลล์ (cell coat)
4) ไซโทพลาสซึม หรือโปรโทพลาสซึม
ภายในเซลล์โดยเฉพาะเซลล์ยูคาริโอต
จะพบออร์แกเนลล์ (organelle) หลายชนิดซึ่งมีดังนี้
·
ไรโบโซม (ribosome) ทำหน้าที่
ในการสร้างหรือสังเคราะห์โปรตีนให้แก่เซลล์
·
ไมโทคอนเดรีย (mitochondria) เป็นแหล่งสร้างพลังงาน
(ATP) ที่สำคัญของเซลล์
·
ร่างแหเอนโดพลาสซึม (endoplasmic
reticulum: ER) ทำหน้าที่ เป็นทางผ่านของการลำเลียงสาร เข้า –
ออกจากเซลล์แบ่งออกได้เป็น 2
แบบ
1) Rough ER (RER) มีหน้าที่สร้างโปรตีนแล้วส่งออกนอกเซลล์
จะพบมากในเซลล์ที่มีการสร้างน้ำย่อย เช่น
เซลล์ตับอ่อน, เซลล์ที่ต่อมน้ำลาย,
เซลล์ที่ต่อมสร้างพิษงู เป็นต้น
2) Smooth ER (SER) มีหน้าที่สร้างสารสเตอรอยด์
และไขมันส่งออกนอกเซลล์เช่นท่ำพบในเซลล์รังไข่, อัณฑะ
และนอกจากนี้ยังพบมากในเซลล์ตับ
เนื่องจากมีกระบวนการกำจัดสารพิษ (detoxication)
·
กอลจิ บอดี (golgi body, golgi
complex) ทำหน้าที่รับสารจาก ER แล้วส่งออก
(exocytosis) นอกเซลล์
·
ไลโซโซม (lysosome) ทำหน้าที่ย่อยสารต่างๆ
เนื่องจากทมีน้ำย่อยอยู่ภายใน
·
เซนตริโอล (centriole) ควบคุมการเคลื่อนที่ของเซลล์
และยังเกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์ โครงสร้างประกอบ
ขึ้นจากหลอดไมโครทิวบูลที่จัดเรียงตัวรวมกันแบบ
9+0
·
คลอโรพลาสต์ (chloroplast) ทำหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
(photosynthesis)
·
แวคิวโอล (vacuole) เป็นแหล่งเก็บน้ำเก็บสารต่างๆ
·
ไซโทสเกเลตัล (cytoskeleton) ได้แก่
ไมโครทิวบูล (microtubule), ไมโครฟิลาเมนต์ (microfilament)
และอินเตอร์มีเดียตฟิลาเมนต์ (intermediate
filament) ทั้ง 3 จะทำหน้าที่เป็นโครงร่างของเซลล์
ทำให้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)