มุมแนะนำ

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ระบบประสาทส่วนกลาง (Center Nervous System หรือ CNS)



      ระบบประสาทส่วนกลาง (Center Nervous System หรือ CNS)
ศูนย์กลางของระบบประสาทส่วนกลางของสัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งหมดคือ สมอง และ ไขสันหลัง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเนื้อเอกโตเดิร์มในระยะเอมบริโอ การเกิดของสมองและไขสันหลังเกิดโดยการเปลี่ยนแปลงมาจาก นิวรัลทิวบ์ (neural tube) ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดยาวไปตามแนวสันหลัง ต่อมาส่วนหน้าพองออกเป็นสมอง ส่วนตอนท้ายมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ยังคงเป็นหลอดยาวกลายเป็นไขสันหลัง ทั้งสมองและไขสันหลังมีเยื้อหุ้มชิ้นเดียวกันเรียกว่า แมนนิงจิส (Meninges) เยื่อหุ้มนี้ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ 3 ชั้นดังนี้
                ชั้นนอกสุด มีลักษณะหนา เหนียว แข็งแรงมาก เรียกว่า ดูรา มาเตอร์ (Dura mater) ทำหน้าที่ป้องกันการกระทบกระเทือน
                ชั้นกลาง เป็นเยื่อบางๆเรียกว่า อแรชนอยด์ มาเตอร์ (Arachnoid mater)
                ชั้นในสุด เป็นชั้นที่มีหลอดเลือดมาเลี้ยงมากมาย นำอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงเนื้อเยื่อสมองและไขสันหลัง ชั้นนี้เรียกว่า เพีย มาเตอร์ (Pia mater) ระหว่างชั้นกลางกับชั้นในสุดมีช่องบรรจุของเหลวเรียกว่า น้ำหล่อเลี้ยงสมอง-ไขสันหลัง (Cerebro-spinal fluid) ช่องนี้เรียกว่า ช่องซับอะแรชนอยด์ (Subarachnoid space)

แม่เหล็กโลกและแม่เหล็ก



แม่เหล็กโลกและแม่เหล็ก
            แม่เหล็ก คือ วัตถุที่เป็นของแข็งมีสมบัติดูดสารบางชนิดได้ โดยทั่วไปมี 2 ขั้ว คือขั้วเหนือ และขั้วใต้ ขั้วเหมือนกันอยู่ใกล้กันจะผลักกัน ขั้วต่างกันอยู่ใกล้กันจะดูดกัน
            สนามแม่เหล็ก หมายถึง บริเวณที่แม่เหล็กสามารถส่งอำนาจแม่เหล็กออกไปถึง สนามแม่เหล็กอาจแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามอำนาจแม่เหล็กที่เกิดขึ้น
1.แม่เหล็กชั่วคราว นำแท่งเหล็กอ่อนมาทำ ใช้ขดลวดพันรอบแล้วปล่อยกระแสไฟกระแสตรงเข้าขดลวด เหล็กอ่อนเป็นแม่เหล็กเร็วก็เสื่อมเร็ว นำมาทำประโยชน์เช่น กระดิ่งไฟฟ้า
2.แม่เหล็กถาวร ทำจากเหล็กกลาเป็นแม่เหล็กยาก แต่เสื่อมอำนาจแม่เหล็กช้า และเราพูดรวมถึงแม่เหล็กที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วย
            สนามแม่เหล็กโลก หมายถึง บริเวณที่แท่งแม่เหล็กโลกส่งอำนาจแม่เหล็กถึง ในโลกเรามีแท่งแม่เหล็กแท่งใหญ่ฝังอยู่ บริเวณที่เป็นขั้วเหนือของโลกจะเป็นขั้วใต้ของแท่งแม่เหล็กโลก บริเวณขั้วใต้ของโลกจะเป็นขั้วเหนือของแท่งแม่เหล็กโลก

พันธุกรรม



1. ศัพท์ทางพันธุศาสตร์บางคำที่ควรรู้จัก
จีน (gene)
- คือลักษณะทางพันธุกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครโมโซม โครโมโซมของคนมี 23 คู่ และมีจีนอยู่ประมาณ 50,000 จีน จีนเหล่านี้จะกระจายอยู่ในโครโมโซมแต่ละคู่และควบคุมการถ่ายทอดลักษณะไปสู่ลูกประมาณ 50,000 ลักษณะ
แอลลีล (allele)
- คือ จีนที่เป็นคู่เดียวกันเรียกว่าเป็น แอลลีลิก (allelic) ต่อกัน หมายความว่าแอลลีลเหล่านี้จะมีตาแหน่งเดียวกันบนโครโมโซมที่เป็นคู่กัน (homologous chromosome)
เซลล์สืบพันธุ์ (gamete)
- หมายถึง เซลล์เพศ (sex cell) ทั้งไข่ (egg) และอสุจิ (sperm)
จีโนไทป์ (genotype)
- หมายถึง จีนที่ควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิต เช่น TT, tt, Tt
ฟีโนไทป์ (phenotype)
- หมายถึง ลักษณะที่ปรากฏออกมาให้เห็นซึ่งเป็นผล จากการแสดงออกของจีโนไทป์นั่นเอง เช่น TT, Tt มีจีโนไทป์ต่างกัน แต่มีฟีโนไทป์เหมือนกัน คือ เป็นต้นสูงทั้งคู่
ฮอมอไซโกต (homozygote)
- TT (homozygous dominant)
- tt (homozygous recessive)
- ลักษณะที่เป็นฮอมอไซโกตเราเรียกว่า พันธุ์แท้
เฮเทอโรไซโกต (heterozygote)
- หมายถึง คู่ของแอลลีลที่ไม่เหมือนกัน เช่น Tt ลักษณะของเฮเทอโรไซโกต เรียกว่าเป็นพันธุ์ทาง
ลักษณะเด่น (dominant)
- คือลักษณะที่แสดงออกเมื่อเป็นฮอมอไซกัสโดมิแนนต์และเฮเทอโรไซโกต
ลักษณะด้อย (recessive)
- คือ ลักษณะที่ถูกข่มเมื่ออยู่ในรูปของเฮเทอโรไซโกต และ จะแสดงออกเมื่อเป็นฮอมไซกัสรีเซสซีฟ
ลักษณะเด่นสมบูรณ์ (complete dominant)
- หมายถึง การข่มของลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อย เป็นไปอย่างสมบูรณ์ทาให้ฟีโนไทป์ของฮอมอไซกัสโดมิแนนต์และเฮเทอโรไซโกตเหมือนกัน เช่น TT จะมีฟีโนไทป์เหมือนกับ Tt ทุกประการ
กฎของเมนเดล
กฎข้อที่ 1 ของเมนเดล (Law of segregation: กฎแห่งการแยก) กล่าวว่า "แต่ละอัลลีลในคู่ของจีน จะแยกจากกันในระหว่างการสร้างเซลล์สืบพันธุ์"
กฎข้อที่ 2 ของเมนเดล
(Law of independent assortment: กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ) กล่าวว่า "อัลลีลจากจีนแต่ละคู่จะเข้าคู่อย่างอิสระซึ่งกันและกัน ในระหว่างการผสมพันธุ์"

มุมแนะนำ