มุมแนะนำ

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การแยกสารเนื้อผสม


การแยกสารเนื้อผสม
1.การกลั่น คือ กระบวนการต้มของเหลวให้กลายเป็นไอ และไอควบแน่นเป็นของเหลว การกลั่นสามารถแยกเกลือและน้ำตาลออกจากน้ำเกลือและน้ำหวานได้
2.การกรอง คือ การแยกของสารเนื้อผสมที่เกิดจากของแข็งผสมอยู่ในของเหลวและของแข็งไม่ละลายในของเหลว สิ่งที่กรองได้คือของเหลว สิ่งที่ติดอยู่บนอุปกรณ์กรองคือของแข็ง
3.การระเหย คือ กระบวนการเปลี่ยนจากของเหลวกลายเป็นไอ เช่น การทำนาเกลือ
4.การระเหิด คือ การที่ของแข็งกลายเป็นไอ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนของการหลอมเหลว ใช้แยกของผสม เนื้อผสมที่ระเหิดได้ผสมปนอยู่ เช่น เกลือแกงผสมกับการบูร เมื่อเราให้ความร้อนการบูรระเหิดออกมาขากเกลือแกงได้
5.การตกผลึก หมายถึง สารละลายที่มีตัวถูกละลายอยู่มาก ที่อุณหภูมิสูง มาตั้งทิ้งไว้ให้เย็นตัวอย่างช้าๆ ตัวถูกละลายบางส่วนจะแยกตัวออกมาเป็นผลึก ผลึกบางชนิดมีน้ำรวมอยู่ในโมเลกุลด้วย และเนื่องจากน้ำจำนวนนี้จำเป็นต่อการตกผลึกจึงเรียกว่า น้ำผลึก
6.การใช้มีหยิบหรือเขี่ยออก ใช้แยกของผสมเนื้อผสม ที่ของผสมมีขนาดโตพอที่จะหยิบหรือเขี่ยออกได้ เช่น ข้าวสารที่มีเมล็ดข้าวเปลือกปนอยู่
7.การใช้แท่งแม่เหล็ก ใช่แยกของผสมเนื้อผสมที่แม่เหล็กสามารถดูดได้ ผสมปนอยู่ เช่น ผงตะไบผสมกับผงกำมะถัน
8.การใช้แรงลมและแรงโน้มถ่วงของโลก ใช้แยกของผสม เนื้อผสมที่มีน้ำหนักต่างกัน เช่น ข้าวสารผสมกับแกลบ เรานำมาใส่กระด้งแล้วออกแรงฝัด แกลบเบาก็ถูกแรงลมพัดปลิวออกไปนอกกระด้ง ข้าวสารหนักกว่าก็จะตกอยู่ในกระด้ง
9.การตกตะกอน ใช้แยกของผสม เนื้อผสม ที่เป็นของแข็งแขวนลอยอยู่ในของเหลว ถ้าต้องการให้ตกตะกอนเร็วขึ้นอาจใช้สารส้มแกว่ง
10.โครมาโทกราฟี ใช่แยกสารผสมเนื้อเดียว นิยมใช้แยกสารอินทรีย์ที่เป็นของผสม ซึ่งมีปริมาณน้อยๆให้บริสุทธิ์
            โครมาโทกราฟี แปลว่า การแยกออกมาให้เห็นเป็นสี
ชนิดของโครมาโทกราฟี แบ่งตามลักษณะของตัวทำละลายและตัวดูดซับ แบ่งออกเป็น 4 ชนิด
1.โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ           2.โครมาโทกราฟีแบบหลอดแก้ว
3.โครมาโทกราฟีแบบเยื่อบางๆ          4.โครมาโทกราฟีแบบแก๊ส-ของเหลว

การจำแนกสารรอบตัว


การจำแนกสารรอบตัว
1.สสาร คือ สิ่งที่มีมวลต้องการที่อยู่และสามารถสัมผัสได้ เช่น ไม้ เหล็ก เป็นต้น
2.สาร คือ สารที่ทราบสมบัติหรือกำลังพิจารณาศึกษาอยู่ หรือเป็นสารที่บ่งชี้ลงไปอีก
3.สารเนื้อเดียว หมายถึง สารที่มีเนื้อสารเหมือนกันทุกส่วน ลักษณะของเนื้อสารผสม กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน อาจมีองค์ประกอบเป็นเนื้อเดียวหรือมากกว่า 1 ชนิดก็ได้
- สารเนื้อเดียวที่มีสถานะของแข็ง เช่น นาก เกลือแกง จุนสี ดีบุก ทองเหลือง
- สารเนื้อเดียวที่มีสถานะของเหลว เช่น น้ำเชื่อม ปรอท น้ำเกลือ
- สารเนื้อเดียวที่มีสถานะเป็นแก๊ส เช่น แก๊สไฮโดรเจน แก๊สออกซิเจน อากาศ ไอน้ำ
4.สารเนื้อผสม คือ สารที่มีสมบัติไม่เหมือนกันทุกส่วน เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเนื้อสารมากกว่าหนึ่งอย่าง ลักษณะเนื้อสารแยกกันอยู่เป็นส่วนๆ ในแต่ละส่วนมีคุณสมบัติแตกต่างกัน
ของแข็ง-ของแข็ง เช่น พริกกับเกลือ ข้าวสารปนข้าวเปลือก ถนนคอนกรีต
ของแข็ง-ของเหลว เช่น ตะกอนในน้ำ ทับทิมกรอบน้ำกะทิ
ของแข็ง-แก๊ส เช่น เขม่าในอากาศ
ของแข็ง-ของเหลว เช่น น้ำมันกับน้ำ

การกำหนดคุณภาพของน้ำ


การกำหนดคุณภาพของน้ำ
1. ค่า DO (Dissolved oxygen) หมายถึงปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในแหล่งน้ำ แหล่งน้ำใดมี DO ต่ำกว่า 3mg/l แหล่งน้ำนั้นจัดเป็นแหล่งน้ำเสีย
2. ค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand) หมายถึง ปริมาณออกซิเจนในแหล่งน้ำที่แอโรบิคแบคทีเรียใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำ แหล่งน้ำใดมีค่า BOD มากกว่า 100mg/l แหล่งน้ำนั้นจัดเป็นแหล่งน้ำเสีย
3. ค่า COD (Chemical Oxygen Demand) หมายถึงปริมาณออกซิไดซิงก์เอเจนต์ อย่างแรงที่ต้องการใช้ออกซิไดซ์ได้ทั้งหมดในแหล่งน้ำ ให้กลายเป็น CO2 กับ H2O ปริมาณดังกล่าวคิดเทียบเป็นปริมาณออกซิเจนในน้ำ

มุมแนะนำ