มุมแนะนำ

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความรู้ เรื่อง ออสโมซีส


ความรู้ เรื่อง ออสโมซีส
1.ออสโมมิเตอร์ (Osmometer) คือเครื่องมือที่ใช้แสดงการเกิดออสโมซีสและสามารถวัดแรงดันที่เกิดจากกระบวนการออสโมซีสได้อีกด้วย
2.แรงดันออสโมซีส (Osmotic pressure) คือ ความดันที่ทำให้เกิดออสโมซีสของน้ำ
           
แรงดันออสโมติกของสารละลายต่างชนิดกัน จะมีค่าแตกต่างกันเนื่องจากสาเหตุสำคัญคือ ความเข้มข้นของสารละลายไม่เท่ากัน เพราะจำนวนโมเลกุลหรือไอออนในสารละลายนั้นมีปริมาณไม่เท่ากันนั้นเอง พอสรุปได้ดังนี้
1.น้ำบริสุทธิ์ แรงดันออสโมซีสต่ำสุด เนื่องจากไม่มีตัวถูกละลายใดเจือปน
2.สารละลายที่มีความเข้มข้นสูง(ตัวถูกละลายมีจำนวนมาก) จะมีแรงดันออสโมติกสูง ส่วนสารละลายที่มีความเข้มข้นต่ำจะมีแรงดันออสโมติกต่ำ
3.น้ำจะแพร่จากบริเวณที่มีแรงดันออสโมติกต่ำไปยังบริเวณที่มีแรงดันออสโมติกสูงเสมอ

ความรู้ เรื่อง สารละลาย


ความรู้ เรื่อง สารละลาย
1. สารละลายมีได้ทั้ง 3 สถานะ
2. สารละลายทีจุดเดือดไม่คงที่
3. สารละลายยิ่งเข้มข้นมาก จุดเดือดยิ่งสูงมาก แต่จุดแยกแข็งยิ่งลดต่ำลง
4. สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากัน ไม่ว่าจะถูกละลายเป็นสารใดก็ตาม ถ้าตัวทำละลายชนิดเดียวกันจะมีจุดเดือดเท่ากัน จุดเยือกแข็งก็เท่ากันด้วย
5. สารละลายที่ตัวถูกละลายระเหยได้ยากจะมีจุดเดือดสูงกว่าจุดเดือดของตัวทำละลาย บริสุทธิ์ แต่มีจุดเยือกแข็งต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของตัวทำละลายบริสุทธิ์
6. ความดันไอของสารละลายที่ตัวถูกละลายระเหยได้ยาก จะต่ำกว่าความดันไอของตัวทำละลายบริสุทธิ์
7. สารละลายที่พบในชีวิตประจำวัน  ส่วนมากมีน้ำเป็นตัวทำละลาย มักไม่ระบุตัวทำละลาย
8. การพิจารณาว่าสารใดเป็นตัวทำละลาย สารใดเป็นตัวถูกละลาย ในสารหลายชนิดใช้หลักดังนี้
            8.1 ถ้าตัวทำละลายแลตัวถูกละลายมีสถานะต่างกัน ตัวทำละลายจะมีสถานะเดียวกับสารละลาย เช่น น้ำเชื่อม เกิดจากน้ำตาล+น้ำ น้ำจะเป็นตัวทำละลายเพราะมีสถานะเดียวกับสารละลาย
            8.2 ถ้าตัวทำละลายและตัวถูกละลายมีสถานะเดียวกัน สารใดมีปริมาณมากกว่า สารนั้นเป็นตัวทำละลาย เช่น ฟิวส์ ประกอบด้วย Bi 50% Pb 25% Sn 25% โดยมวล ทั้ง Bi,Pb,Sn อยู่ในสถานะของแข็งดังนั้น Bi เป็นตัวทำละลายเพราะมีปริมาณมากที่สุด

ความรู้ เรื่อง ยานอวกาศ


ความรู้ เรื่อง ยานอวกาศ
1. เมื่อยานขนส่งเริ่มเข้าสู่บรรยากาศโลกในเที่ยวกลับยานมีความเร็ว 28,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง
2. ผิวนอกของยานเสียดสีอากาศ เกิดความร้อนสูงกว่า 1,300 องศา C
3. ตัวยานไม่ละลายที่อุณหภูมิ 1,300 องศา C เพราะใช้แผ่นกระเบื้องซิลิกาจำนวน 32,000 แผ่น ออกแบบมาพิเศษ
4. ส่วนที่ได้รับความร้อนมากที่สุดคือ ส่วนจมูกด้านหน้าของยาน และขอบหน้าของปีก จึงต้องติดสารคาร์บอนพิเศษ สามารถทนความร้อนได้ดียิ่งกว่าแผ่นกระเบื้องซิลิกา
5. มนุษย์อวกาศในชุด ( M.M.U. ) เป็นชุดที่มนุษย์อวกาศสามรถลอยออกไปลอยตัวท่องอวกาศอย่างอิสระ ไม่ต้องผูกสายโยง ยึดติดไว้กับยานขนส่งอวกาศอีกจึงเรียกพวกนี้ว่า มนุษย์เทียม
6. ดาวเทียมมนุษย์ชุด M.M.U. มีระบบช่วยชีวิตอัตโนมัติ มีเครื่องบังคับการเคลื่อนที่อยู่ในปลายมือทั้งสอง โดยกดปุ่มบังคับ 140 และจรวดเครื่อง 24 เครื่อง ใช้แก๊สไนโตรเจนสำหรับจุดระเบิดผลักดันการเคลื่อนที่ไปตามต้องการ
7. ธุรกิจหลักของยานขนส่งอวกาศ คือ การปล่อยดาวเทียมชนิดต่างๆ
8. นักบินอวกาศใช้แขนกลยกดาวเทียมออกไปทีละดวง ใช้วิธีบังคับด้วยสปริงดีดดาวเทียมออกไปจากห้องบรรทุกสินค้า
9. ดาวเทียมที่ชำรุด นักบินอวกาศชุด M.M.U. เคลื่อนเข้าไปใกล้แล้วคว้าส่วนบนของดวาเทียมไว้ ทำให้ดาวเทียมหยุดหมุนแล้วลากจูงให้มาอยู่ในระยะใกล้แขนกล นำดาวเทียมมาเก็บไว้ในห้องเก็บสินค้าเพื่อซ่อมแซมต่อไป
10. ดาวเทียมไทพัฒ กำเนิดขึ้นเมื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครส่งอาจารย์มหาวิทยาลัยแคน และวิศวกรบริษัท UCOM เดินทางไปเริ่มโครงการที่ประเทศอังกฤษ ดาวเทียมไทยพัฒได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามว่า ดาวเทียมไทยพัฒ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2541

มุมแนะนำ