มุมแนะนำ

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

พันธะไอออนิก


พันธะไอออนิก
1).ธาตุคู่พันธะ: เกิดจาการเข้าทำพันธะของธาตุโลหะ และธาตุอโลหะ (โลหะ+อโลหะ)
2).สารประกอบที่ได้: เรียกว่าสารประกอบ “ไอออนิก”
3).การใช้งานอิเล็กตรอน: เกิดอะตอมของธาตุอโลหะพยายามจะทำให้ตัวเองมีอิเล็กตรอนครบแปดโดยการปลดอิเล็กตรอน และอะตอมของธาตุอโลหะพยายามทำให้อิเล็กตรอนวานอกสุดครบแปดโดยการรับเอาอิเล็กตรอนที่ธาตุโลหะไม่ต้องการมาใช้ จึงดูเหมือนกับธาตุโลหะให้อิเล็กตรอน และธาตุอโลหะรับอิเล็กตรอน เกิดเป็นไอออนบวกและไอออนลบตามลำดับ จึงดึงดูดกันด้วยแรงทางไฟฟ้าอย่างเหนียวแน่น
4).สูตรสารประกอบ: สารประกอบไอออนิกเกิดจาการไอออนบวกกับไอออนลบดึงดูดกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นจึงหาขอบเขตของสารประกอบไม่ได้ จึงไม่มีสูตรสารประกอบ มีแต่สูตรอย่างง่าย(Empirical Formula) ที่แสดงสัดส่วนการรวมตัวของไอออนบวกและไอออนลบ
5).ค่าEN : ยิ่งต่างกันมากยิ่งเป็นไอออนิกมาก (ไม่มีไอออนิก 100% เพราะไม่มีการระบุว่าค่าEN แตกต่างกันเท่าไรจึง 100%)
6).ความแข็งแรงของพันธะ: แข็งแรงรองจากพันธะโลหะ เพราะเกิดจากไอออนบวกับไอออนลบดึงดูดกันอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
7).ลักษณะของสารประกอบ: สารประกอบไอออนิกเป็นของแข็งเสมอที่ RTP ไม่นำไฟฟ้าในสภาพของแข็งแต่นำไฟฟ้าได้ดีเมื่อหลอมเหลว ทั้งนี้เนื่องจากเป็นของแข็งไอออนเคลื่อนที่ไม่ได้ แต่เมื่อเป็นของเหลวไอออนเคลื่อนที่ได้ จุดเด่นของสารประกอบไอออนิกคือ แข็งแต่เปราะไม่เหมือนโลหะที่แข็งและเหนียว


พันธะโลหะ


พันธะโลหะ
1).ธาตุคู่รวมพันธะ: เกิดจากการเข้าทำพันธะของธาตุโลหะเดียวกันทุกธาตุต่อเนื่องทั้งแท่งโลหะ  (โลหะ+โลหะ)
2).สารประกอบที่ได้: เรียกว่าสารประกอบ
3).การใช้งานอิเล็กตรอน: เกิดจากอะตอมของธาตุโลหะไม่ต้องการใช้งานอิเล็กตรอนวงนอกสุด  จึงปลดอิเล็กตรอนออกมาทำให้เกิดอิเล็กตรอนอิสระจำนวนมหาศาลในโลหะ (Sea of electron)  เกิดคุณสมบัติทางกายภาพของโลหะมากมาย
4).สูตรสารประกอบ: ไม่มีสูตรสารประกอบ เนื่องจากไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนของอะตอมที่เข้าร่วมพันธะเพราะมีเยอะมากจึงมีแต่สูตรอย่างง่าย(Empirical Fomular)เช่น Fe ,Na ,K ,Ag ,Cu เป็นต้น
5).ค่าΔEN: เท่ากับศูนย์ เพราะเกิดจากธาตุเดียวกันเข้าทำพันธะกัน
6).ความแข็งแรงของพันธะ: แข็งแรงมาก  เพราะเกิดจากแรงทางไฟฟ้าอันมหาศาลของประจุบวกที่เกิดจากโปรตอนในนิวเคลียสดึงดูดกันกับกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนที่เป็นประจุลบ
7).ลักษณะของสารประกอบ:
·         โลหะจะแข็งและเหนียวต่างจากโคเวเลนต์ และไอออนิก ที่แข็งแต่เปราะ
·         นำไฟฟ้าได้ดีทุกทิศทาง เพราะมีอิเล็กตอนจำนวนมากเคลื่อนที่อยู่รอบผิวแท่งโลหะ
·         มีผิวมันวาวเคาะแล้วมีเสียงก้องกังวานเพราะ กลุ่มหมอกอิเล็กตรอนสามารถสะท้อนแสงได้ และสามารถสั่นพ้องได้
·         จุดเดือดจุดหลอมเหลวของสารประกอบโลหะสูงมากโดยเฉพาะโลหะทรานสิชันจะสูงกว่า 1000˚ͦ C เพราะความแข็งแรงของพันธะโลหะที่มากขึ้นนั่นเอง
8).สมบัติเด่นของโลหะหมู่ IA – IIIA :
·         หมู่ IA : เนื้ออ่อน ไม่แข็ง ความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำ(ลอยน้ำได้) จุดหลอมเหลวต่ำ (Cs จุดหลอมเหลว 27 ˚ͦ C) ทำปฏิกิริยารุนแรงกันน้ำ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเบส
·         หมู่ IIA : แข็งแรงกว่าหมู่ IA ความหนาแน่นมากกว่าน้ำ แต่ไม่ถือว่าสูงมาก จุดหลอมเหลวสูงกว่าหมู่ IA เยอะ (หมู่ IA จัดอิเล็กตรอนระดับออบิทัลเสถียร) ประมาณ 100-700 ˚ͦ C พบมากบนพื้นโลก(Mg ,Ca พบมากที่สุด) และในตัวของสัตว์เปลือกแข็ง
·         หมู่ IIIA : เป็นโลหะเนื้อแข็ง ความหนาแน่นสูง แข็งแรง จุดหลอมเหลวสูงกว่า 1000 ˚ͦ C ส่วนใหญ่ใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้างไดแก่ B ,Al


พันธะโคเวเลนต์


พันธะโคเวเลนต์
1).ธาตุคู่พันธะ: เกิดจาการเข้าทำพันธะของธาตุอโลหะและ ธาตุอโลหะ (อโลหะ+อโลหะ)
2).สารประกอบที่ได้: เรียกว่าสารประกอบโคเวเลนต์
3).การใช้งานอิเล็กตรอน: เกิดอะตอมของธาตุอโลหะพยายามจะทำให้ตัวเองมีอิเล็กตรอนครบแปด จึงไปขอใช้อิเล็กตรอนกับธาตุโลหะอะตอมอื่น(อาจเป็นธาตุเดียวกันหรือต่างกันก็ได้)โดยการที่จะไปขอใช้นั้นต้องนำอิเล็กตรอนไปแลกด้วย จึงเกิดอิเล็กตรอนจำนวนหนึ่งที่มีการใช้งานร่วมกันของอะตอมอโลหะทั้งสองอะตอม เรียกว่า พันธะโคเวเลนต์
4).สูตรสารประกอบ: ธาตุคู่พันธะหนึ่งๆสามารถเกิดพันธะได้หลายแบบ(พันธะเดี่ยว,พันธะคู่,พันธะสาม)ดังนั้น สารประกอบโคเวเลนต์จึงไม่มีสูตรสารประกอบที่แน่นอน
5).ค่าΔEN: ต่างกันน้อย จนถึงไม่แตกต่างเลย(เกิดกับพันธะโคเวเลนต์ที่ธาตุเดียวกันทำพันธะกัน)
6).ความแข็งแรงของพันธะ: พันธะโคเวเลนนต์มีความแข็งแรงน้อยกว่าพันธะโลหะแลพันธะไอออนิก เพราะไม่ได้เกิดจากไอออนบวกและลบดึงดูดกันอย่างชัดเจน แต่เกิดจากนิวเคลียสของธาตุคู่รวมพันธะดึงดูดกัน
7).ลักษณะของสารประกอบ: สารประกอบโคเวเลนต์มีได้ทั้ง3สถานะที่ RTP(Room Temperature and Pressure)ไม่นำไฟฟ้าทั้งในสภาพของแข็งและของเหลว จุดเดือดจุดหลอมเหลวต่ำ เนื่องจากการเปลี่ยนสถานะป็นการทำลายแรงระหว่างโมเลกุล ไม่ได้ทำลายพันธะโคเวเลนต์
8).หน่วยเล็กที่สุดของสารประกอบโคเวเลนต์: โมเลกุล


มุมแนะนำ