มุมแนะนำ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คู่มือ Seo ตอน Search Engine คืออะไร


คู่มือ Seo ตอน Search Engine คืออะไร
                Search Engine คือ เครื่องมือค้นหาข้อมูลออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต ที่ทุกคนสามรถเข้าไปใช้งานเพื่อค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง ซึ่ง 99.99% ตอนนี้ทุกที่ใช้งานฟรี โดยหากเราต้องการค้นหาข้อมูลอะไร เพียงกรอกคำค้นหา (keyword) ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการค้นหาลงในช่องคำค้นหา (Search Box) แล้วกดค้นหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้นๆจะเรียงอันดับบนหน้าจอเราทันที ปัจจุบันนี้ Search Engine ที่เป็นที่นิยมมากคือ Google Yahoo และ MSN
**Tip**
ผลลัพธ์การค้นหา หรือ Results ที่แสดงออกมานั้น จะถูกจัดเรียงอันดับตามหลักการประมวลผลการค้นหาและการจัดอันดับ ซึ่ง Search Engine แต่ละเจ้า แต่ละยี่ห้อ จะมีระบบการประมวลผลแตกต่างกันไป ตามแต่ละแห่ง
ประเภทของ Search Engine
1.แบบอาศัยการจัดเก็บข้อมูลเป็นหลัก Crawler-Based Search Engine
                Crawler-Based Search Engine คือ เครื่องมือการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยการเก็บข้อมูลด้วยตัวเองเป็นหลัก ได้รับความนิยมสูง และแม่นยำสูง มีการประมวลผลเร็ว
โดยการทำงานจะอาศัยองค์ประกอบหลักๆ 2 ส่วน คือ
1.ฐานข้อมลของตนเองที่มีระบบการประมวลผลและจัดอันดับการค้นหา
2.ระบบซอฟท์แวร์ ที่จะอาศัยโปรแกรมเล็กๆของ Search Engine นั้นๆโดยใช้ในการเก็บหรือสำเนาข้อมูลหน้าเพจใหม่ๆซึ่งโดยทั่วไปมักเรียกว่า Web Crawler หรือ spider หรือ Search Engine Robot ครับ ส่วนภาษาไทยจะเรียกแบบง่ายๆว่า “แมงมุม” ครับ
2. แบบสารบัญเว็บไซต์ Web Directory
Web Directory หรือเว็บสารบัญที่คนไทยเรียกติดปาก การทำงานเหมือนสมุดหน้าเหลืองที่แยกเนื้อหาออกเป็นหมวดหมู่และทำดัชนีไว้อย่างเป็นระเบียบ
3. แบบอ้างอิงใน ”ชุดคำสั่งเมต้า” Meta Search Engine
Meta Search Engine คือ ชุดคำสั่งในการประกาศรายละเอียดเว็บไซต์นั้นๆเช่น ชื่อผู้ผลิต, เจ้าของ, คีย์เวิร์ด. คำอธิบายเว็บ แต่ Search Engine ประเภทนี้ไม่มี Server เป็นของตนจึงต้องอาศัยข้อมูลจาก Search Engine Index Server จากแหล่งอื่นมาประกอบกันทำให้มีความหลากหลาย แต่มักออกมาไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร

**Tip**
Search Engine หรือแมงมุม จริงๆแล้วก็เป็นโปรแกรมเล็กเล็กโปรแกรมหนึ่ง โดยสามารถเรียกรวมได้หลายแบบ ทั้ง “spider,crawlers หรือ robots
                เพื่อความชัดเจน เราสามารถเรียกชื่อตรงๆเพื่อแยกระบุลงไปอีก เช่น Google มีชื่อเรียก Search Engine spider ของตัวเองว่า Googlebot , Yahoo มีชื่อเรียกว่า Slurp และ Msn มีชื่อเรียกว่า MSNbot
**Tip**
Search Engine Index Server ของ Google นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Linux ทั้งระบบ ซึ่งตัวเลขของจำนวน Server เล็กๆ ทั้งหมดที่ Google มีอยู่ตอนนี้คือ 300,000 เครื่องทั่วโลก โดยใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลในตอนนี้ มากกว่า 5 ล้าน Terabyte ไปแล้ว (พ.ศ.2550)

คู่มือ Seo ตอน PageRank (PR)


คู่มือ Seo ตอน PageRank (PR)
                PageRank (PR) คือค่าคะแนนความน่าเชื่อถือของหน้าเพจนั้นๆที่ Google เป็นผู้ออกค่าคะแนนนี้ ให้กับหน้าเพจที่มีอยู่ในทุกๆเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ทุกคนได้ใช้ค่าคะแนนนี้ถือเป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพ จาก Google ถึงความน่าเชื่อถือที่มีต่อหน้าเพจนั้นๆ โดยค่าคะแนนจะถูกคิด, คำนวณและออกแต้มให้โดยระบบ อัลกอริทึ่ม อันซับซ้อนของ Google เอง
                โดยค่าคะแนน PageRank นี้มีค่าคะแนนอยู่ที่ระหว่าง 1-10 คะแนนเต็ม เปรียบเสมือนแต้มคะแนนโหวตที่ได้รับจากเว็บไซต์อื่น ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน ซึ่งการโหวตในที่นี้ก็คือการทำลิงค์แนะนำ เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
**Tip PageRank**
หลายท่านที่รู้จักกับ PageRank และทราบถึงประโยชน์จากมันแล้ว มักจะคิดว่า การที่เรามีค่าคะแนน PageRank สูงๆจะสามารถทำอันดับได้ดีใน Google แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ค่า PageRank นั้น “เป็นเพียงแค่องค์ประกอบหลักในการจัดอันดับเท่านั้น”
                หากลองทำการค้นกาข้อมูลที่ Google อยู่บ่อยๆเราจะพบว่าในบางครั้ง (หรืออาจจะหลายครั้ง) เว็บไซต์ที่มีค่า PageRank ร้อยก็สามารถทำอันดับการแสดงผลได้ดีกว่าเว็บที่มีค่า PageRank เยอะ
                นั่นก็อาจเป็นเพราะวางตำแหน่งของคีย์เวิร์ดและโครงสร้างเว็บไซต์ของอีกอันดีกว่าเว็บไซต์อื่นก็เป็นได้ หรืออาจเป็นปัจจัยอื่น ตามที่ อัลกอริทึ่ม ประมวลผลออกมาแล้วว่าเหมาะสม ซึ่งระบบอัลกอริทึ่ม ก็เป็นอีกิ่งหนึ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา
การที่เว็บไซต์อันดับการแสดงผลที่สูง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมี PageRank มากเสมอไป
องค์ประกอบของ PageRank
                แน่นนอนว่า องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ส่งผลให้ PageRank โอนเอียงว่าคะแนนจะมากหรือจะน้อยได้เป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับเรื่องโครงสร้างของลิงค์ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับลิงค์ของเว็บไซต์เราทั้งหมด เช่น
1.ปริมาณของลิงค์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์เรา
2.ลิงค์จากภายนอกที่มาจากเว็บไซต์เนื้อหาเดียวกัน และทีค่าคะแนน PageRank สูง
3.ลิงค์ของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันและมาจากภายในเว็บไซต์
4.การออกแบบและจัดวางลิงค์ภายในเว็บไซต์กันเอง ที่ดี

หนังสือ E-book ฟรี 3 เล่มแบบเป็นเล่ม หนังสือสแกนครับอยากให้เอาไปศึกษาครับ

หนังสือ E-book ฟรี 3 เล่มแบบเป็นเล่ม หนังสือสแกนครับอยากให้เอาไปศึกษาครับ

ลิงค์  ปล.เราจะส่งลิงค์ให้ทางเมล์ เขียนE-mail ของท่านบนกล้องคอมเม้นด้านล่าง 

ดูรูปก่อนโหลดครับ http://www.mediafire.com/view/?7mpm29e4i0ng4zw


วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คู่มือ Seo ตอน Title Tag



คู่มือ Seo ตอน Title Tag
Title tag ที่เรียกกัน title นี้จะอยู่บริเวณบนสุดของเว็บเพจนั้นๆ ซึ่งทำหน้าที่บอกว่าหน้าเพจนั้นๆเกี่ยวกับอะไร ชื่ออะไร ซึ่งเจ้า Title tag นี้แหละที่ Search Engine ให้น้ำหนักมาก ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ส่วนวิธี หรือเทคนิคในการทำ seo ในส่วนของ title แบบถูกต้องไม่ยากครับ มีหลักดังนี้
1. เขียนไตเติ้ลให้ สั้น กระชับ อธิบาย ให้ได้ว่าเว็บเพจนั้นเกี่ยวกับอะไร เรื่องอะไร โดยให้ตัวอักษรยาวประมาณ 60-70 ตัวอักษร ( ถ้ายาวกว่านี้ Search Engine จะตัดส่วนที่เกินออก )
2. ให้ใส่คำหลัก หรือ คีย์เวิร์ด สำหรับหน้าเพจนั้นๆลงไป สัก2-3คำ อย่ามากเกินกว่านี้ อย่าซ้ำถ้าคุณกำลังสร้าง Brand ก็อาจต่อท้ายด้วยชื่อ Brand ก็ได้
การใส่คีย์เวิร์ดลงในไตเติ้ลนั้นนอกจากช่วยให้ Search Engines เข้าใจว่าเว็บเพจเราเกี่ยวกับอะไรแล้ว คำหลัก หรือคีย์เวิร์ดนั้นๆ จะถูกทำให้เป็นตัวหนา หรือถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง ในหน้าผลลัพธ์ของการค้นหาของ Search Engine อันนี้ช่วยเพิ่มปริมาณการคลิ๊ก เพื่อเข้าไปดูเว็บที่ใส่คีย์เวิร์ดในไตเติ้ลได้มากขึ้น
**ข้อระวังในการสร้างไตเติ้ลแท็ก**
1. อย่าปล่อยให้ไตเติ้ลแท็กว่างหรือปล่อยไว้เฉยๆหรือใช้คำปริยายเช่น Untitled หรือ New pag1 อันนี้พูดแล้วเหมือนไม่น่าเชื่อถือนะครับใครสร้างเว็บไซต์แล้ว ปล่อยให้เว็บไซต์ใช้ค่าปริยายแบบนั้น ซึ่งไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับเว็บเพจเลย จริงๆแล้วมีครับ และมีไม่น้อยเลยด้วย
2. ใช้คำอย่าให้เยิ่นเย้อ ในการอธิบายเกี่ยวกับหน้าเว็บเพจ
3. อย่าใส่คีย์เวิร์ดลงไปมากเกินความจำเป็น 2-3 คำเต็มที่ อย่าใช้คีย์เวิร์ดซ้ำๆ
4. พยายามอย่าให้ ไตเติ้ลซ้ำกัน แต่ละเว็บเพจในเว็บไซต์ของคุณ ควรที่จะมีไตเติ้ลที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับหน้าอื่น

คู่มือ Seo ตอน Robot.txt คืออะไร



คู่มือ Seo ตอน Robot.txt คืออะไร
คือไฟล์ที่บอกกับ Search Engine ว่าไฟล์ใดบ้างที่ให้อ่านข้อมูลและไฟล์ใดที่ไม่ให้อ่านข้อมูล โดยปกติ bot จะเข้าไปทุกไฟล์ที่มีการเชื่อมโยงไปถึงผ่าน link ในหน้าเว็บเพจของเรา แต่บางครั้งที่เราไม่ต้องการให้ bot เข้าไปเก็บข้อมูลใน directory ส่วนตัวหรือไฟล์ส่วนตัวเราสามารถใช้ตัว Robot.txt เป็นตัวกำหนดได้
ตัวอย่างการระบุคำสั่งในไฟล์ Robot.txt
1.ถ้าไม่ต้องการให้ bot ทุกชนิดมา index ข้อมูลภายในเว็บไซต์เราทั้งเว็บไซต์ใช้คำสั่งดังนี้
User-agent:*
Disallow:/
2.ถ้าอนุญาตให้ bot บางตัวมาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์เราได้ ก็ใช้คำสั่งต่อไปนี้
User-agent:msnbot
User-agent:googlebot
Disalow:
3.ถ้าไม่ต้องการให้ bot เข้ามา index บางไฟล์หรือบางโฟล์เดอร์ ให้ใช้คำสั่งดังนี้
User-agent:*
Disallow:/images
Disallow:/cgi-bin

คู่มือ seo ตอน seo on-page



คู่มือ seo ตอน  seo on-page
1. Title  ของเว็บไซต์ควรมีคำค้นหาที่เราต้องการนั้นอยู่ภายในนั้นโดยความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร และไม่เจาะจง คำค้นหานั้นๆมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น เราจะทำคำว่า seo และ รับทำseo ควรมีการเขียนให้แตกต่างจากเว็บอื่น ดังนี้
Title=รับทำ seo โปรโมทเว็บไซต์ บริการ seo <<***ไม่ผ่าน***
Title=การตลาดด้วย seo เรารับทำเว็บไซต์ให้กับเว็บไซต์ทุกประเภท <<***ผ่าน***
2. Meta Tag โดยทั่วไปนั้นเราจะใช้เพียงแค่ 2 Tag สำคัญๆนั้นก็คือ
<meta name=”description” content=”ข้อความของเรา”/>
<meta name=keywordcontent=”คำค้นหา,คำค้นหา,คำค้นหา”/>
โดยจะมีข้อกำหนดดังนี้ในด้านของ Meta description เราควรเขียนให้อ่านแล้วน่าคลิ๊ก ไม่ใช่แค่เน้นแต่คีย์ที่เราจะทำ และความยาวไม่เกิน 7 คำ และควรเน้นคำที่เราหวังผลมากที่สุดแล้วนำมาใส่อันดับแรก
3. Main page หรือ หน้าหลักของเราที่ต้องการให้ติดอันดับการค้นหา เราควรมีเนื้อหาหรือรูปภาพอยู่ภายในนั้นด้วยไม่ใช่ให้ว่างเฉยๆ หรือมีเพียงลิงค์ให้คลิ๊กไปหน้าอื่น โดยข้อกำหนดโดยจำเป็นต้องเป็นดังนี้
ควรมีการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ที่เข้ากับเว็บไซต์หรือคำค้นหาที่เราต้องการอยู่ในนั้น ความยาวโดยประมาณ 300 - 700 ตัวอักษร โดยคำค้นหาที่เราต้องการอยู่ในนั้นสักประมาณ 4-8ครั้งผสมผสานรูปแบบตัวอักษรให้คำค้นหานั้นๆเพื่อเน้นย้ำให้ Search Engine ได้รู้ว่าเราสื่อถึงคำค้นหาเหล่านั้น โดยการ ทำตัวหนา,ตัวเอียง,ขัดเส้นใต้,ตัวสี เป็นต้น
4. รูปภาพ ที่เรามีควรใส่คำค้นหาที่เราต้องการไปเป็นชื่อรูปนั้นด้วย ยกตัวอย่างเราทำคำค้นหาว่า seo เราก็ควรมีรูปที่มีชื่อว่า seo.jpg หรือนามสกุลใดก็ได้ที่เราต้องการ และกำหนด Title,Alt เป็นคำค้นหานั้นๆให้กับรูปภาพด้วย อย่างน้อย 1 คำค้นหา 1 ภาพ
5. Heading หรือคำสั่งให้เรากำหนดหัวข้อเราอาจจะเอาไว้ด้านล่างๆของเว็บหรือบนๆก็ได้ แต่ขอแนะนำให้เอาไว้ข้างบนเนื้อหาต่างๆโดยอาจจะเป็นหัวข้อของบทความนั้นๆ โดยแนะนำให้ใช้ดังนี้ <h1>..</h1>,<h2>..</h2>,<h3>..</h3> เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งอย่างละ 1 ครั้งไม่ควรเกิน
****************************************** เกร็ด Seo *******************************************
คำสั่ง ปรับข้อความต่างๆ Search Engine จะให้คะแนนต่างกัน โดยคำสั่งที่ให้คะแนนมากที่สุด คือ
<strong> ตัวหนา </strong>  
<em> ตัวเอียง </em>
<span style=”text-decoration: underline;”> ตัวอักษรสี </span>
แต่ถ้าให้ดีให้ดึง css มาได้ก็จะดียิ่งขึ้น

มุมแนะนำ